Saturday, November 17, 2012

หนุ่มเกาหลีใต้ถูก"จำคุกตลอดชีวิต"ฐานฆาตกรรมแฟนสาวด้วย"ปลาหมึกยักษ์"


ชายชาวเกาหลีใต้ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตวันนี้ ด้วยข้อหาฆาตกรรมแฟนสาว จากเดิมทีเชื่อว่าเสียชีวิตเพราะปลาหมึกยักษ์ติดคอขณะกำลังรับประทาน ทำให้สำลักและขาดอากาศหายใจ
 
ศาลเมืองอินชอน ตัดสินให้ผู้ต้องหา ซึ่งระบุชื่อเพียงว่า นายคิม มีความผิดจริงและลงโทษจำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากผู้พากษาเห็นว่าการกระทำของเขาเป็นการก่ออาชญากรรมที่โหดเหี้ยมที่ สุด

นายคิม วัย 31 ปี เข้าพักในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งในเมืองอินชอนกับแฟนสาวเมื่อเดือนเมษายน 2010 หลังจากซื้อปลาหมึกยักษ์เป็นๆ 2 ตัวมาจากร้านอาหารในย่านนั้น หลังจากนั้นเขาได้โทรศัพท์หาพนักงานต้อนรับและแจ้งว่า นางสาวยุน แฟนสาวของเขา เป็นลมล้มลงและหยุดหายใจหลังจากกินปลาหมึกยักษ์ไปหนึ่งตัว ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิต16 วันหลังจากนั้น เนื่องจากสมองได้รับความเสียหาย

ปลาหมึกยักษ์เป็นๆ เป็นอาหารราคาแพงในเกาหลีใต้ แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าอันตรายเพราะอาจจะติดคอได้เนื่องจากอวัยวะบนหนวดที่ ใช้ดูดยังเคลื่อนไหวได้อยู่ จึงอาจทำให้เข้าติดอยู่ในลำคอของคนรับประทานได้ ในการรับประทานปลาหมึกยักษ์นั้น ลูกปลาหมึกยักษ์ตัวเล็กๆ มักจะรับประทานทั้งตัว แต่ชนิดอื่นๆที่ใหญ่กว่าจะต้องตัดเป็นชิ้นเสียก่อน ส่วนหนวดที่ยังบิดไปมาก็จะรับประทานกับน้ำมันงาชุ่มๆ

ในตอนแรกทั้งครอบครัวของเธอและทางตำรวจเชื่อเรื่องว่า นาวสาวยุนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุปลาหมึกติดคออย่างที่นายคิมเล่า เนื่องจากมีการตรวจพบหนวดปลาหมึกในลำคอของนางสาวยุน และหลังจากนั้นร่างของเธอก็ถูกนำไปฌาปนกิจ แต่ตำรวจจำเป็นต้องรื้อคดีอีกครั้งหลังจากที่รายการทีวีได้นำเสนอข่าวบิดา ของนางสาวยุนต้องการให้สอบสวนนายคิมอีกครั้ง หลังจากที่เขาพบว่าลูกสาวแก้ไขกรมธรรม์ประกันชีวิตให้นายคิมเป็นผู้รับผล ประโยชน์แต่เพียงผู้เดียวก่อนที่เธอจะเสียชีวิตไม่นาน โดยนายคิมได้รับเงินประกันทั้งสิ้น 200 ล้านวอน (ราว 5.8 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าร่างของนางสาวยุนถูกเผาไปแล้ว แต่ศาลเมืองอินชอนก็พบพยานหลักฐานโดยอ้อมที่มัดตัวนายคิมว่าได้สังหารแฟนสาว เพื่อเอาเงินประกันชีวิต โฆษกศาลเมืองแถลงกับสื่อว่า สาเหตุการเสียชีวิตของนางสาวยุนที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือ การเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ เนื่องจากถูกรัดคอด้วยผ้า และไม่มีหลักฐานใดๆแสดงว่าเสียชีวิตเพราะปลาหมึกยักษ์ติดคอทำให้ขาดอากาศ หายใจ นอกจากนี้ เหยื่อมักจะมีปัญหาในการเคี้ยวเสมอ จึงเป็นไปไม่ได้ว่าเธอจะรับประทานปลาหมึกยักษ์โดยไม่ตัดเป็นชิ้นเสียก่อน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่านายคิมซึ่งยังคงอ้างว่าตนบริสุทธิ์จะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาลหรือไม่

รักในห้วงลึกของหมึกกระดอง

คน เรามักเรียกสัตว์ที่อยู่ในน้ำรวม ๆ หลายชนิดว่าปลาเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะสัตว์ที่ว่ายน้ำเป็นทั้งหลาย ในอดีตนั้นเรามักจะเหมารวมว่าเป็นปลาไปเสียทั้งหมด แม้ว่าบางชนิดจะไม่ใช่ปลาและว่ายน้ำไม่เป็นเอาเสียด้วย อย่างเช่นปลาดาวซึ่งเป็นสัตว์จำพวกดาวทะเลไม่มีส่วนไหนคล้ายปลาสักหน่อย แต่เราก็เรียกกันติดปากว่าปลาดาว สัตว์จำพวกหมึกก็เช่นกัน เราเรียกกันจนติดปากว่าปลาหมึกนั้น ความจริงมันเป็นสัตว์ทะเลจำพวกหอย ซึ่งหากจะให้เปลี่ยนจากที่เคยเรียกปลาหมึกมาเป็นหอยหมึกก็คงจะอย่างไร ๆ อยู่

สัตว์จำพวกหมึกนั้นอยู่ในกลุ่มหอยไฟลัม Mollusca ซึ่งสืบทอดสายพันธุ์กันมาคู่ท้องทะเลราว ๕๐๐ ล้านปีมาแล้ว บรรดาหมึกนั้นอยู่ใน Class Cephalopoda มีรากศัพท์จากภาษาละติน ซึ่ง “Cepholo” แปลว่า “หัว” และ “Poda” แปลว่า “เท้า” บ่งบอกลักษณะได้เด่นชัดว่าเป็นสัตว์ที่มีหัวกับเท้า
ติดกัน เห็นได้ชัดจากรูปร่างของหมึกยักษ์หรือหมึกสาย ซึ่งมีส่วนหัวกับติดกับหนวดที่คล้ายกับเป็นเท้า ไม่มีลำตัว โดยพี่น้องตระกูลหมึกนั้นมีด้วยกันกว่า ๖๕๐ ชนิด แบ่งออกเป็น ๔ กลุ่มใหญ่ ๆ คือ กลุ่มหอยงวงช้าง (Nautilus) กลุ่มหมึกยักษ์ หรือหมึกสาย (Octopus) กลุ่มหมึกหอม (Squid) หมึกกล้วย (Loligo) และกลุ่มหมึกกระดอง



( หมึกกระดองหนุ่มคลอเคลียอยู่กับหมึกกระดองสาว โดยมีหมึกหนุ่มอีกตัวเข้ามาเป็นมือที่สาม )





สำหรับนักดำน้ำแล้ว หลายคนคงจะคุ้นเคยกับหมึกกระดองกันมากที่สุด เพราะพบเห็นได้ง่ายตามกองหินใต้น้ำ และเป็นหมึกที่เชื่อง ว่ายน้ำด้วยการลอยตัวแล้วใช้แผ่นบางใสข้างลำตัวพลิ้วไปมา ผิดกับหมึกชนิดอื่น ๆ เช่น หมึกกล้วยมักจะว่ายเป็นฝูงอยู่กลางน้ำ รักษาระยะห่างไม่ค่อยยอมให้นักดำน้ำเข้าใกล้ หรือเจ้าหมึกยักษ์ที่ชอบแอบซอกซอนซ่อนพรางตัวอยู่ตามซอกหิน หมึกกระดองจึงเป็นเหมือนขวัญใจของนักดำน้ำเลยทีเดียว

วงจรชีวิตของหมึกกระดองนั้นไม่ยาวนานเท่าใดนัก โดยหมึกตัวเมียจะมีอายุราว ๒๔๐วัน หลังจากเติบโตเต็มที่ ผสมพันธุ์ วางไข่ จากนั้นหมึกตัวเมียก็จะตายลง ในขณะที่หมึกตัวผู้จะมีอายุยาวนานกว่า (ช่างไม่เท่าเทียมเสียจริง ๆ) ฉากรักของหมึกกระดองจะเริ่มขึ้นจากหมึกหนุ่มและหมึกสาวว่ายจับคู่คลอเคลีย กัน โดยหมึกสาวจะมองหาทำเลที่เหมาะกับการวางไข่ ซึ่งอาจจะเป็นโพรงหรือซอกหลืบปะการัง หรืออาจเป็นตามแผ่นกัลปังหาที่เรียงรายทับซ้อนกัน คล้ายเป็นที่กำบังอย่างดี หมึกหนุ่มและหมึกสาวจะว่ายคลอเคลียเคียงคู่กันไปมาช้า ๆ ราวลีลาแห่งการเต้นรำอย่างหวานชื่น สีสันและลวดลายบนลำตัวจะปรับเปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็วราวกับแสงไฟที่ติดดับ สลับสี เป็นการบ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกอันหวานชื่นของทั้งคู่ เมื่อความรักสุกงอมทั้งคู่ก็จะว่ายน้ำหันหน้ามาแนบชิดกัน แล้วใช้หนวดโอบกอดสอดประสาน หมึกกระดองหนุ่มจะใช้หนวดยาวคู่พิเศษล้วงเอาถุงสเปิร์มในลำตัวสอดเข้าไปเก็บ ไว้ในลำตัวของหมึกสาวเพื่อผสมกับไข่ หมึกหนุ่มสาวจะจับคู่กันราว ๑ สัปดาห์ หลังจากนั้นหมึกสาวก็เริ่มวางไข่ โดยใช้หนวดนำไข่ที่ได้รับการผสมแล้วจากภายในออกมา ค่อย ๆ บรรจงยื่นไปวางติดไว้ในโพรงที่เตรียมไว้ทีละฟอง จำนวนไข่ที่วางครั้งหนึ่งอาจมีมากมายนับพันฟองเลยทีเดียว ซึ่งหมึกสาวต้องใช้ความพยายามอย่างทุ่มเทเป็นเวลายาวนานหลายวัน ในขณะที่หมึกหนุ่มก็จะว่ายคลอเคลียไม่จากไปไหน เหมือนจะคอยปกป้องผองภัย และป้องกันไม่ให้หมึกหนุ่มตัวอื่น ๆ ที่ยังหาคู่ไม่ได้ ซึ่งมักจะคอยเข้ามาป้วนเปี้ยนเป็นมือที่สามอยู่ใกล้ ๆ เข้ามาฉวยโอกาสตีท้ายครัว

( หมึกกระดองหนุ่มกางหนวดกว้างแสดงอาการปกป้องหมึกกระดองสาวที่กำลังจะวางไข่ )



หมึก

หมึก เป็นสัตว์ที่มีสมองพัฒนาสูงสุดในกลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เป็นสัตว์ในไฟลัม Mollusca อยู่ในกลุ่มหอย ไม่ใช่ปลา แต่คนเรียกกันติดปากว่าปลาหมึก

หมึกมีกว่า 800 ชนิด แบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม คือ

1. Nautilus หรือ หอยงวงช้าง มีหนวด 63-94 เส้น ไม่มีน้ำหมึกใช้พ่นป้องกันตัว และแปลกว่าหมึกอื่นๆตรงที่มีเปลือกอยู่ด้านนอก
2. Squid หมึกกล้วย หมึกหอม มี 10 หนวด ลักษณะตัวเป็นรูปกรวยยาว หนวดมีตะขอไว้จับปลา มักจะพบเป็นฝูง ไอ้ที่ขายยิ่งสูงยิ่งแพงตามรถเข็นก็หมึกชนิดนี้แล
3. Cuttle Fish หมึกกระดอง มีแกนในลำตัวเป็นแผ่นหินปูน เรียกว่า "ลิ้นทะเล" (Cuttle Bone) เป็นที่มาของชื่อ มี 10 หนวด ไม่มีตะขอ มีครีบบางๆพริ้วๆรอบตัว
4. Octopus หมึกยักษ์ หมึกสาย มี จุดเด่นคือ หนวดใหญ่ ยาว มีแปดหนวด มักจะพบตัวเดียวตามพื้น ตามซอกหิน


รูปแรก หมึกกระดอง Pharaoh cuttlefish มีสิบหนวด ล่าปลาขนาดเล็กเป็นอาหารโดยใช้หนวดรัด



หมึกยักษ์ Octopus ที่เกาะสุรินทร์นี่เอง

หมึกยักษ์มีแปดหนวด อาศัยตามพื้น ตามกองหิน พบได้ทั่วไป มีพฤติกรรมเปลี่ยนสีไปมาให้ศัตรูตกใจ(รูปซ้าย) ล่าหอยและสัตว์หน้าดินขนาดเล็กเป็นอาหาร



ไปเจอที่ช่องขาด 2 ตัวแน่ะ
ใครไป ก็ยังเจออยู่



อีกตัวนึง


 ที่หน้าหาดไม้งาม
ไปเจอ หมึกกระดอง 2 ตัว
ไม่ได้เปิดตำรา จำแนกว่าเป็นประเภทอะไร
..ได้มีการแจ้งพบเห็น ที่อ่าวเรืออวนปู ด้วยเช่นกัน


หมึกหายาก โผล่หัว น่านน้ำไทย

กลายเป็นที่ฮือฮา ! ไม่น้อยเลย สำหรับ การพบ พบปลาหมึก 3 ชนิดใหม่ครั้งแรกในน่านน้ำไทย

   โดย คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับทีมงานจากภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
   เบื้องต้น หากใครยังไม่ทราบว่าปลาหมึก คือ สัตว์สายพันธ์ชนิดไหน แล้วเป็นปลาหรือป่าว ลองไปดูคำอธิบายจาก ดร.จารุวัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านปลาหมึก  ซึ่งได้อธิบายไว้ดังนี้

   “ปลาหมึกเป็นสัตว์กินเนื้อ อาศัยอยู่ในน้ำเค็ม ในประเทศไทยขณะนี้สำรวจพบสายพันธุ์ปลาหมึกประมาณ 80 ชนิด ในทางวิชาการถือว่าปลาหมึกเป็นสัตว์กลุ่มหอยโดยทางสรีระวิทยา แต่ในส่วนของพฤติกรรมจะคล้ายกับสัตว์จำพวกปลา ด้วยมีความว่องไว สามารถเคลื่อนที่ได้เร็ว ในทางวิชาการถือว่าปลาหมึกเป็น Climax of invertebrate evolution หมาย ถึงสัตว์ที่เป็นสุดยอดของวิวัฒนาการในสัตว์ ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง เพราะว่าสติปัญญาของปลาหมึก มีการพัฒนาเทียบเท่าได้กับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เมื่อเทียบแล้วก็มีความฉลาดเท่ากับสุนัข ปลาหมึกทั่วไปจะไม่มีพิษร้ายแรง แต่จะมีเพียงกลุ่มเดียวที่มีพิษถึงตาย คือ ปลาหมึกสายวงฟ้า ซึ่งพบในน่านน้ำไทยด้วย”

   ปลาหมึก 3 ชนิดที่พบ มีดังนี้
          
   ปลาหมึกลายเสือ mimic octopus, Thaumoctopus cf. mimicus Norman and Hochberg, 2005 เป็นการรายงานจากภาพถ่ายเป็นครั้งแรก ซึ่งพบบริเวณเกาะสาก จ.ชลบุรี 

   ปลาหมึกสายลายเสือมีขนาดความยาวลำตัวสูงสุด 58 มม. และความกว้างเมื่อเหยียดหนวดทั้งสองออก 600 มม.  ลำตัวเป็นกล้ามเนื้อบาง มีช่องเปิดของลำตัวกว้าง สีของลำตัวเป็นสีน้ำตาลเข้ม มีขีดสีขาวประทั่วตัว มีลายสีขาวรูปตัว U บน ด้านหลังค่อนไปทางท้ายตัว มีวงแหวนรูปหยดน้ำสีขาวบริเวณกลางหลัง หนวดสีน้ำตาลเข้มมีแถบสีขาวตามขวาง มีลักษณะผอมบาง และยาวมากเมื่อเทียบกับลำตัว ไม่มี ocelli หรือตาปลอมสำหรับหลอกศัตรู และมีติ่งเนื้อ (papilla) อยู่เหนือตาทั้งสองข้าง


   ปลา หมึกสายลายเสือ กลายเป็นเป้าหมายยอดนิยมในการเสาะหาของนักดำน้ำทัศนาจร กิจกรรมดังกล่าว อาจเป็นการคุกคามต่อการดำรงชีวิต และการอยู่รอด เป็นผลให้ปลาหมึกสายลายเสือตกอยู่ในภาวะเสี่ยง ต่อการสูญพันธุ์ได้ในอนาคต
   ปลาหมึกชนิดนี้ ส่วนใหญ่ จะอาศัยอยู่ในทะเลที่มีความสมบูรณ์ เช่น ทะเลใน อินโดนีเซียและมาเลเซีย มันมักจะเคลื่อนตัวลักษณะที่เป็นกรวยไหลแล่นไปกับทิศทางน้ำ แล้วจะมีละกษณะนิสัย คอยตะล้อมหาเหยื่อ เประเภท ปลาเล็ก ปู หนอนทะเล แต่บางที มันก็กินพวกเดียวกัน

   โดย ปกติแล้ว ปลาหมึกชนิดนี้ ชอบพลางตัว ตามรูหรือท่อต่างๆ ในท้องทะเล หรือ บางทีก็อาจจะหลบไปอยู่ใต้น้ำทะเลในระดับลึก เพื่อปกปิด ซุกซ่อนตัวเองจากนักล่าในท้องทะเล

   อย่างไรก็ดี นี่อาจเป็นข้อสรุปได้อย่างหนึ่งว่า ท้องทะเลในไทยมีความสมบูรณ์ในระดับหนึ่ง ทำให้ปลาหมึกชนิดนี้ มาพักอาศัยอยู่ในไทย

   ดังนั้นแล้ว อยากฝากถึงหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนทุนวิจัย และความช่วยเหลืออันเป็นประโยชน์ที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการประมงไทย และยังเป็นสร้างงาน สร้างความรู้ให้กับเยาวชน ให้เข้าใจถึงนักวิทยาศาสตร์ไทย ที่มีความเชียวชาญ แบบไม่แพ้ชาติใดในโลก

    ท้ายสุด   ขอฝากคำพูดจาก ดร.จารุวัฒน์ ได้กล่าวเกี่ยวกับระบบนิเวศของปลาหมึกไว้ว่า

   “ส่วน ของระบบนิเวศของปลาหมึกในประเทศไทย ซึ่งเคยมีความอุดมสมบูรณ์ แต่ปัจจุบันด้วยสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป น้ำเสื่อมสภาพ ผนวกกับมีการจับเพื่อการบริโภคมากขึ้น ด้วยปริมาณของประชากรที่เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุทำให้ทรัพยากรปลาหมึกลดน้อยลง ทั้งนี้ทั้งนั้น การรักษาทรัพยากรนี้ให้ยั่งยืนขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของทุกคน ในการร่วมกันอนุรักษ์”

ปลาหมึกยักษ์

ปลาหมึกยักษ์

http://uc.exteenblog.com/iamlily/images/image004.jpg

ในนิยายหลายเรื่องเล่าเรื่องปลาหมึกยักษ์ไว้อย่างสนุกตื่นเต้น ภาพยนต์เกี่ยวกับปลาหมึกยักษ์ ก็เคยมี ให้ดูกันแล้ว แต่ปลาหมึกยักษ์ตัวจริง เป็นปัญหาที่หลายคนคลางแคลงใจว่ามีอยู่จริงหรือไม่ คำตอบคือ เรื่องปลาหมึกยักษ์นี้มิได้มีแต่ในนิยายที่เรียกกันว่า!นรกแห่งสะดือทะเล หากแต่ปลาหมึกยักษ์ที่ใหญ่โต จริงๆ มีอยู่ในโลกนี้แน่นอน

ปลาหมึกดังกล่าวนี้เรียกว่า ปลาหมึกยักษ์สีน้ำตาลมีสีส้มที่ใต้ท้อง หรือพวกที่กรีกโบราณเรียกว่า เอิทฟูด เป็น!มหัศจรรย์ที่มีหนวดขนาดยักษ์ถึง 7 หนวด มีดวงตาโปนถลนกว้างและมีพลัง มหาศาล สามารถบีบรัด เหยื่อหรือศัตรูให้แหลกเหลวได้ในพริบตา หรือแม้นแต่จับเหยื่

ถิ่นกำเนิด : ไม่สามารถระบุได้เพราะมันกระจายไปตามรอบโลก แต่ตัวที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มีการบันทึกนั้นจับได้นอกชายฝั่งทัสมาเนียปลาหมึกยักษ์จะอยู่ในน้ำลึกประมาณ 500-1,500 เมตร ลักษณะ :แต่ตัวที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มีการบันทึกนั้นจับได้นอกชายฝั่งทัสมาเนีย ลำตัวนับจากหัวถึงหนวดยาวลงมา ยาว 40 ฟุต หนัก 440 ปอนด์นับเป็นปลาหมึกตัววมหึมาที่สุดเท่าที่พบ วงรอบตัวโตอเหวี่ยงไปไกลๆได้อย่างมหัศจรรย์ เท่ายางรถยนต์ แต่กลิ่น ของมันเหม็นชวนสลบไสลดีนัก รสชาติก็เลวแท้ แทบจะไม่รู้ว่าปลาหมึกตัวนี้อยู่ในสายพันธุ์ใด

สาเหตุของการสูญพันธุ์และการใกล้สูญพันธุ์ : เนื่องจากมันเป็นอาหารอันโอชะของปลาฉลามและปลาวาฬจึงทำให้มันลดจำนวนลงรวมถึงการคุกคามจากมนุษย์ทั้งหลาย แต่ยังไม่ถึงขั้นวิกฤตินัก จึงยังมิต้องกังวลว่ามันจะสูญพันธุ์

วิธีเลือกซื้อปลาหมึก



วิธีเลือกซื้อปลาหมึก


 ปลาหมึกที่นิยมทานมีอยู่ 2 ชนิด คือ ปลาหมึกกล้วย และปลาหมึกกระดอง -

     ปลาหมึกกล้วย ตัวจะออกรี ๆ ยาว ๆ คล้ายกล้วย มีเยื่อหุ้มตัวสีออกน้ำตาล ส่วนด้านข้างจะมีปีกเล็ก ๆ 2 ปีก มีสีเข้มเป็นพิเศษ นิยมนำมาทำปลาหมึกยัดไส้ -

     ปลาหมึกกระดอง ลักษณะตัวแบนใหญ่สีขาว นิยมนำมาทำปลาหมึกปิ้ง และอาหารอื่น ๆ เช่น ผัด หรือยำลักษณะตัวแบนใหญ่สีขาว

การเลือกซื้อปลาหมึก คือ ควรเลือกซื้อปลาหมึกที่เนื้อแน่น ไม่เละ และลองดมดู ไม่มีกลิ่นฉุน ๆ ของฟอร์มาลีน ส่วนจะเลือกปลาหมึกชนิดใด ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะอาหารที่ต้องการปรุง

     ก่อนนำปลาหมึกไปปรุงอาหาร ต้องล้างปลาหมึกให้สะอาด ลอกเยื่อบาง ๆ ออกให้หมด พร้อมกับกระดองด้านในออก ควักถุงหมึก และลูกตาออก นอกจากนี้ ควรบั้งปลาหมึกก่อน เพราะเนื้อปลาหมึกค่อนข้างแน่น หากไม่บั้ง เครื่องปรุงจะไม่ซึมเข้าเนื้อ และไม่อร่อย ครั้งหน้าถ้าจะซื้อปลาหมึก ก็อย่าลืมนำวิธีที่แนะนำไปสังเกตปลาหมึกก่อนซื้อกันดูได้



ที่มา: www.dailynews.co.th

Monday, October 29, 2012

วิธีเลือกซื้อปลาหมึก


ปลาหมึกที่นิยมทานมีอยู่ 2 ชนิด คือ ปลาหมึกกล้วย และปลาหมึกกระดอง

- ปลาหมึกกล้วย
ตัวจะออกรี ๆ ยาว ๆ คล้ายกล้วย มีเยื่อหุ้มตัวสีออกน้ำตาล ส่วนด้านข้างจะมีปีกเล็ก ๆ 2 ปีก มีสีเข้มเป็นพิเศษ นิยมนำมาทำปลาหมึกยัดไส้

- ปลาหมึกกระดอง
ลักษณะตัวแบนใหญ่สีขาว นิยมนำมาทำปลาหมึกปิ้ง และอาหารอื่น ๆ เช่น ผัด หรือยำลักษณะตัวแบนใหญ่สีขาว

การเลือกซื้อปลาหมึก คือ
ควร เลือกซื้อปลาหมึกที่เนื้อแน่น ไม่เละ และลองดมดู ไม่มีกลิ่นฉุน ๆ ของฟอร์มาลีน ส่วนจะเลือกปลาหมึกชนิดใด ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะอาหารที่ต้องการปรุง

ก่อนนำปลาหมึกไปปรุงอาหาร
ต้องล้างปลาหมึกให้สะอาด ลอกเยื่อบาง ๆ ออกให้หมด พร้อมกับกระดองด้านในออก ควักถุงหมึก และลูกตาออก นอกจากนี้ ควรบั้งปลาหมึกก่อน เพราะเนื้อปลาหมึกค่อนข้างแน่น หากไม่บั้ง เครื่องปรุงจะไม่ซึมเข้าเนื้อ และไม่อร่อย

ครั้งหน้าถ้าจะซื้อปลาหมึก ก็อย่าลืมนำวิธีที่แนะนำไปสังเกตปลาหมึกก่อนซื้อกันดูได้.


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์



ความหมายของปลาหมึก





ปลาหมึก
ความหมายน. ชื่อสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่มีขาซึ่งเรียกว่าหนวดอยู่บริเวณหัว อาศัยอยู่ในทะเล มีถุงบรรจุนํ้าสีดําอย่างหมึกสําหรับพ่นเพื่อพรางตัว มีหลายสกุล เช่น ปลาหมึกกระดอง สกุล Sepia ในวงศ์ Sepiidae, ปลาหมึกกล้วย สกุล Loligo และปลาหมึกหอม (Sepioteutis lessoniana) ในวงศ์ Loliginidae, ปลาหมึกสาย สกุล Octopus ในวงศ์ Octopodidae, หมึก ก็เรียก              หมึกมีความสำคัญอะไรอีก นอกจากใช้เป็นอาหารของมนุษย์แล้ว?
                    และภาพของเรือตกหมึกที่เปิดไฟสว่างไสวก็คงเป็นภาพที่คุ้นตาที่ถูกนำเสนอผ่าน สื่อต่างๆ หมึกเป็นสัตว์ที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มมอลลัส (Mollusk) จะกินสัตว์ขนาดเล็กที่ลอยในทะเล ((Zooplankton) และกินปลาที่มีขนาดเล็ก เป็นอาหาร หมึกเป็นสัตว์ที่มีลักษณะเฉพาะ เคลื่อนที่ด้วยการดูดน้ำเข้าไปในลำตัวจากนั้นก็จะพ่นน้ำออกทางรูเล็กๆ และอาศัยแรงดันน้ำเป็นแรงสำหรับการขับเคลื่อนตัวเหมือนเครื่องบินเจ็ท และด้วยแรงดันน้ำนี่เองที่ทำให้หมึกเคลื่อนที่ไปมาได้อย่างว่องไวและรวดเร็ว หมึกสามารถล่าเหยื่อและหลบหลีกอันตรายต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้หมึกยังมีความ สามารถในการพลางตัว สามารถเปลี่ยนสีลำตัวจากสีแดงเข้มและน้ำตาล ไปเป็นสีชมพูและม่วงได้ และเมื่อถูกรบกวน หมึกก็จะปล่อยหมึกสีดำออกมาเพื่อพลางตัวสำหรับการหลบหนี                    หน้าที่สำคัญของหมึกในมหาสมุทร
                    หมึกเป็นตัวกลาง หรือตัวเชื่อมต่อของสายใยอาหารในมหาสมุทร เนื่องจากหมึกอยู่ในฐานะที่ทั้งเป็นนักล่าที่ดุร้ายกินสัตว์หลายชนิดเป็น อาหาร และขณะเดียวกันก็เป็นเหยื่ออันโอชะของปลาขนาดใหญ่และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใน ทะเล โดยทั่วไปแล้วหมึกจะอาศัยเคลื่อนที่ไปมาตามพื้นทะเลในช่วงเวลากลางวันเพื่อ หลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของสัตว์นักล่าหลายชนิด และจะขึ้นมาหากินบริเวณผิวน้ำในช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น สัตว์กินหมึกเป็นอาหารหลักและชอบหมึกเป็นพิเศษ ก็เช่น ปลาฉนาก (Swordfish), ปลากระโทง (marlin), ปลาทูน่า (tuna) และโลมาปากขวด (bottlenose dolphins) ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องช่วยกันดูแลให้จำนวนประชากรของหมึกอยู่ในสมดุล เพื่อที่จะทำให้ระบบนิเวศในทะเลคงอยู่กับเราไปนานๆ
                    และไม่ใช่เฉพาะปลาและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมในทะเลเท่านั้นที่กินหมึกเป็น อาหาร มนุษย์เองก็อาศัยกินหมึกเป็นอาหาร และใช้หมึกเป็นเหยื่อสำหรับตกปลาชนิดอื่นๆ อีกด้วย มนุษย์เราจับหมึกโดยใช้อวนลากและวางเบ็ดราวใต้แสงไฟในตอนกลางคืน และการจับหมึกมากเกินไปเป็นเหตุให้สมดุลของระบบนิเวศทางทะเลสูงไ
                    ทำไมประชากรของหมึกจึงมีการเปลี่ยนแปลงได้ง่าย                     หมึกเป็นสัตว์ที่ฝรั่งให้นิยามว่า “Annual species – meaing they are born and die in one year” คือเกิดมา เติบโต สืบพันธุ์และก็จะตายไป ทำให้จำนวนประชากรของหมึกในแต่ละปีจะขึ้นอยู่กับจำนวนของหมึกที่อยู่รอดและ เติบโตมาจากปีก่อนหน้านั้น จากข้อมูลในอดีตที่ผ่านมา พบว่า ถ้าปีใดที่มีการจับหมึกขึ้นมาขายมากินกันมากๆ ในปีถัดมาจำนวนหมึกก็จะลดจำนวนลง ดังนั้นจะเห็นได้ว่าจำนวนประชากรของหมึกในทะเล จะขึ้นอยู่กับการทำการประมงทางทะเลเป็นสำคัญนะค่ะ
                    การป้องกันการจับหมึกเกินพิกัด
                    น้อยคนหนักที่จะบอกว่าหมึกไม่อร่อย ทำให้ความต้องการหมึกจากทะเลมาเป็นอาหารยังคงมีมากอยู่ และยังคงเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของประชากรที่เพิ่มขึ้น การคมนาคมขนส่งที่สะดวกรวดเร็วมากขึ้น
                    กลายเป็นปัญหาที่สำคัญ สำหรับเรื่องของการจัดการเกี่ยวกับการจับหมึกเพื่อการค้า เรามักจะไม่ค่อยคำนึงถึงความสมดุลของการจับหมึก และจำนวนหมึกที่เหลืออยู่ และเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เราควรจะจับเท่าไหร่ และเหลือหมึกปล่อยไว้ในทะเลเท่าไหร่ ถึงจะอยู่ในสมดุลพอดี ทำให้สายใยอาหารอยู่ในสมดุล
                    นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับหมึกรู้ดีว่า หมึกมีอัตราการตายตามธรรมชาติสูง แต่ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามีจำนวนเท่าใด และยังไม่รู้ว่าหมึกถูกล่าโดยสัตว์ชนิดใดมากที่สุด บวกกับสถานการณ์การล่าหมึกมาเป็นอาหารและเพื่อการค้า ทำให้สถานภาพของหมึกที่อยู่ในระบบนิเวศอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ถ้าอย่างนั้น เราจะมีหมึกกินถึงเมื่อไหร่หนอ ดูแลรักษาไว้นะค่ะจะได้มีกินไปนานๆค่ะ

เตือนภัย อสูรร้าย ในตู้กระจก..ปลาหมึกสีน้ำเงิน


เมื่อเร็ว ๆ นี้เราคงจะทราบข่าวมีผู้ลักลอบนำหมึกบลูริงค์เข้ามาเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม
โดยได้รับความนิยมมาก..
โดยไม่รู้ถึงอันตรายที่แฝงอยู่ในหมึกมหาภัยตัวนี้ การนำเข้าหมึกบลูริงค์นั้นต้องขออนุญาตต่อกรมประมงก่อน ซึ่งที่ผ่านมากรมประมงไม่เคยอนุญาตให้นำเข้าหมึกชนิดนี้เลย

ปลาหมึกสายพันธุ์เพชรฆาตนี้ทำให้คนที่ถูกกัดเสียชีวิตภายใน 2-3 นาที เนื่องจาก พิษของมันร้ายแรงกว่างูเห่าถึง 20 เท่า และพิษของหมึกบลูริงค์นี้ สามารถฆ่าคนได้ 26 คนในคราวเดียวกัน


เมื่อถูกปลาหมึกบลูริงค์ กัด ขั้นแรก จะมีอาการคลื่นไส้ ตาพร่าเลือน ขั้นต่อมาจะทำให้มองไม่เห็นและประสาทสัมผัสก็จะไม่ทำงาน ไม่สามารถจะพูดหรือกลืนน้ำลายได้ และขั้นสุดท้ายประมาณ 10 นาทีต่อมา ก็จะเป็นอัมพาตและหยุดหายใจ



ลักษณะที่สวยงามโดยมีวงแหวนสีน้ำเงินกระจายอยู่ตามลำตัวและหนวด ทำให้ดูสวยงามพ่อค้าผู้นำเข้านำมาขายตัวละ 800-1,500 บาท


รู้สึกว่าจะมีคนนำมาขายที่จตุจักรด้วยนะ..


ไม่อยากคิดเลยว่าถ้ามันเกิดหลุดไปแพร่พันธุ์ในชายฝั่งของไทยจะเป็นยังไง (เจ้าตัวนี้อาศัยอยู่ในน้ำตื้นๆ)


#ใครที่เห็นเจ้าตัวนี้วางขายตามท้องตลาดก็อย่าได้แตะเชียวนา

พอล ปลาหมีกยักษ์ นักพยากรณ์

พอล ปลาหมีกยักษ์ นักพยากรณ์


กลาย เป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลก และอาจจะแซงหน้าวูวูเซล่าไปซะแล้ว สำหรับ เจ้าพอล ปลาหมึกยักษ์ พ่อหมอนักพยากรณ์ ที่ทำสถิติเอาไว้อย่างสวยหรูงดงาม ด้วยการทายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ถูกทุกคู่ ย้ำ ถูกทุกคู่ เรียกได้ว่า ทำสถิติแม่นยำ 100% เต็มกันเลยทีเดียว คราวที่แล้วเขียนถึงวูวูเซล่าไปแล้ว คราวนี้เลยพลาดไม่ได้ที่จะต้องเขียนถึงเจ้าปลาหมึกพอลกับเขาบ้าง
The Oracle Octopus Paul
หรือ เจ้าพอล ปลาหมึกยักษ์ นักพยากรณ์
หลัง จากทายผลฟุตบอลโลก 2010 ถูกทุกงวดไปหลายคู่ จนมาถึงคู่ฮือฮา เยอรมัน กับ เซอร์เบีย ที่เจ้าพอลดันไปทายว่า เซอร์เบีย จะชนะ ผิดคาดจากที่นักวิเคราะห์ทายผลบอลทั้งโลกเค้าคาดการณ์กัน ซึ่งก็ปรากฏว่าแมทช์การแข่งขันคู่นั้น ผลออกมาเป็นอย่างที่เจ้าพอลทำนายไว้จริงๆ เซอร์เบีย ชนะ เยอรมัน ไป 1:0 ทำให้เจ้าพอลกลายเป็นปลาหมึกยักษ์ที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกโด่งดังไปไกล ในชั่วพริบตา จนมาถึงคู่ เยอรมัน กับ สเปน ก็ดันมี มือดี เอาภาพเก่ามาเล่าใหม่ จากคู่ที่ปลาหมึกพอลทาย เยอรมัน กับ เซอร์เบีย นี่แหละ เอามาตัดต่อเปลี่ยนธงเซอร์เบียร์เป็นธงสเปนซะ ทำให้ผลออกมา สเปน เป็นฝ่ายชนะ เยอรมัน จนกลายเป็นที่โจษจันกันขนานใหญ่ กลายเป็นข่าวเกรียวกราวไปทั่วทั้งวงการฟุตบอล ทำเอาใครต่อใครไม่ว่าชาติไหนๆ ทั่วโลก ต่างจดๆ จ้องๆ เพื่อจะรอดูว่า วันอังคารที่ 6 กรกฏาคม 2553 เวลา 16.00 น. (ตามเวลาในประเทศไทย) การทำนายจริงๆ ของเจ้าพอลจะเป็นเช่นไร
และ แล้ว เจ้าพอลก็ทำนายทายทัก มุดเข้าไปกินหอยในล่อง สเปน หลังจากที่ลังเลอยู่นาน ตามข่าวแจ้งว่า นานถึง 15 นาที ทีเดียว และจากการทำนายให้ เยอรมัน ชนะ สเปน ครั้งนี้นี่เอง ที่ทำให้เจ้าพอลตกที่นั่งลำบากวิกฤติถึงขั้นจะเอาชีวิตไม่รอดปานนั้นกันเลย เพราะเจ้าพอลแม้จะเป็นปลาหมึกที่เกิดที่เมืองวีเมาธ์ ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ แต่ก็ดันมาเติบโตและใช้ชีวิตอยู่ทุกวันนี้ที่ สวนน้ำซีไลฟ์ Oberhausen's Aquarium อควาเรียมเมืองโอเบอร์เฮาเซนของเยอรมนี 
 
 
 
ก็เจ้าพอลอยู่เยอรมัน!!! แต่ดันไปทายให้ สเปน ชนะ เยอรมัน แล้วจะเหลือเรอะ!!!
ทำ เอาแฟนบอลจำนวนมากของเยอรมันถึงกับหมั่นไส้ในความแม่นจัดของปลาหมึกยักษ์วัย 2 ปีครึ่งตัวนี้ พากันแห่เข้ามาโพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ รวมถึงสังคมออนไลน์ต่างๆ โดยมีการยุให้นำเจ้าพอลไปทำอาหารในรูปแบบต่างๆ แล้วแต่จะคิดกันได้ เมนูปลาหมึกยักษ์จึงเป็นที่ถามหาและถูกปรุงกันจ้าละหวั่น นอกจาก ทอด ย่าง บาร์บีคิว สลัด ซีฟู้ด กุ๊ก เชฟ ตามร้านอาหารต่างคิดสรรเมนูเด็ดกันขึ้นมาใหม่ๆ บางคนก็ถึงขนาดแนะว่า น่าจะจับเจ้าพอลไปโยนให้ปลาฉลามกินเสียให้สิ้นซาก โถๆๆ อะไรจะอินปานนั้น!!! ไม่ตายที่เยอรมันคราวนี้แล้วจะรอดไปตายคราวไหน บ้างก็ว่าเจ้าพอลมีสิทธิ์โดนเนรเทศเฉดหัวพร้อมหนวดไปอยู่สเปนแหง๋แก๋ ถึงขนาดตั้งค่าตัวกันเลยทีเดียว อืมมมม!!! อันนี้ค่อยยังชั่วหน่อย ไม่ถึงกับตาย
ในที่สุด 7 กรกฏาคม 2553
ฟุตบอลโลกรอบรองชนะเลิศ ระหว่าง เยอรมัน กับ สเปน
ผลออกมาปรากฏว่า สเปน เป็นฝ่ายชนะ เยอรมัน ไปได้ 1:0
เจ้าพอลทายถูก บ๊ะ!!! แม่นจริง!!!
ยิง ยาวววววว มาถึงคู่ชิงชนะเลิศ พอลก็ทาย สเปน ชนะ ฮอลแลนด์ อีก กลายเป็นกระแสการนำเหล่าบรรดาสัตว์น้อยใหญ่มาทำนายทายทักกันเลยทีนี้ มีทั้ง จรเข้ โลมา นกแก้ว แมวน้ำ ลูกช้าง หรือแม้กระทั่ง หลินปิง แพนด้าน้อยที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ที่เอากะเค้าทุกงานอยู่แล้ว มีหรือที่งานใหญ่ๆ แบบนี้จะพลาด ก็กลายเป็นสีสันของฟุตบอลโลก 2010 ไปอีกแบบ
ไหนๆ ก็เอ่ยถึงจะพอลมาขนาดนี้แล้ว ขอต่ออีกซักนิดแล้วกัน
เมื่อ 2 ปีก่อน สมัยที่เจ้าพอลยังเป็นปลาหมึกตัวเล็กๆ ได้มีโอกาสพยารกรณ์ทายผลฟุตบอลเป็นครั้งแรก ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2008 ที่สวิตเซอร์แลนด์ และ ออสเตรีย เป็นเจ้าภาพร่วม ด้วยเหตุที่ว่า ในครั้งนั้นพอลมีสถิติผลทายผิดอยู่ 1 นัด ทำให้ครั้งนี้ใครต่อใครทั่วโลกต่างเฝ้าจับตารอดูการแข่งขันและผลของฟุตบอล โลก 2010 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง สเปน กับ ฮอลแลนด์ เมื่อวันที่ 11 กรกฏาคม 2553 กันอย่างใจจดใจจ่อ ด้วยอาการที่นอกจากจะลุ้นทีมที่ตนเองเชียร์แล้ว ยังมีลุ้นอีกว่า เจ้าพอลจะทายถูกหรือไม่

 
 
และ ในที่สุด พอลก็ไม่พลาด สเปน ชนะ ฮอลแลนด์ 1:0 ทำให้เจ้าพอลสามารถ สร้างสถิติใหม่ ทำลายสถิติเดิม คือ ทายถูก 100% เต็ม เอาล่ะสิ!!! ชีวิตเจ้าพอลต่อจากนี้ไปจะเป็นเช่นไร ใครที่สนใจคงจะต้องติดตามข่าวกันต่อไป แต่มีแว่วๆ ว่า ฟุตบอลยูโร 2012 ที่ โปแลนด์ กับ ยูเครน เราอาจจะไม่ได้เห็นเจ้าพอลออกมาทายผลฟุตบอลสร้างสีสันกันอีกแล้ว เนื่องจากถ้าไม่ตายซะก่อน ก็เข้าข่ายวัยเกษียณอายุมากเกิน ประมาณนั้น

 
 
เรื่อง แนวๆ แบบนี้ นึกว่าจะมีแต่เฉพาะในบ้านเราซะอีกนะ นี่ถ้าเจ้าพอลอยู่เมืองไทยคงจะรอด แถมมีคนมานั่งกราบไหว้บูชา จุดธูป ขอหวย หรือไม่ก็คงเอาตัวเลขแปะเกาะแทนสัญลักษณ์ธงชาติ แล้วก็นั่งลุ้นกันว่า เจ้าพอลจะมุดลงไปกินหอยในกล่องเลขไหน 555 เป็นไปได้ว่า เจ้าพอลปลาหมึกยักษ์ตัวนี้ ได้กินหอยอิ่มสบายไปทั้งชาติแน่ถ้าได้มาอยู่เมืองไทย ยังไงก็ขออวยพรให้โชคดีแล้วกันนะเจ้าพอล