Monday, October 29, 2012

ความหมายของปลาหมึก





ปลาหมึก
ความหมายน. ชื่อสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่มีขาซึ่งเรียกว่าหนวดอยู่บริเวณหัว อาศัยอยู่ในทะเล มีถุงบรรจุนํ้าสีดําอย่างหมึกสําหรับพ่นเพื่อพรางตัว มีหลายสกุล เช่น ปลาหมึกกระดอง สกุล Sepia ในวงศ์ Sepiidae, ปลาหมึกกล้วย สกุล Loligo และปลาหมึกหอม (Sepioteutis lessoniana) ในวงศ์ Loliginidae, ปลาหมึกสาย สกุล Octopus ในวงศ์ Octopodidae, หมึก ก็เรียก              หมึกมีความสำคัญอะไรอีก นอกจากใช้เป็นอาหารของมนุษย์แล้ว?
                    และภาพของเรือตกหมึกที่เปิดไฟสว่างไสวก็คงเป็นภาพที่คุ้นตาที่ถูกนำเสนอผ่าน สื่อต่างๆ หมึกเป็นสัตว์ที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มมอลลัส (Mollusk) จะกินสัตว์ขนาดเล็กที่ลอยในทะเล ((Zooplankton) และกินปลาที่มีขนาดเล็ก เป็นอาหาร หมึกเป็นสัตว์ที่มีลักษณะเฉพาะ เคลื่อนที่ด้วยการดูดน้ำเข้าไปในลำตัวจากนั้นก็จะพ่นน้ำออกทางรูเล็กๆ และอาศัยแรงดันน้ำเป็นแรงสำหรับการขับเคลื่อนตัวเหมือนเครื่องบินเจ็ท และด้วยแรงดันน้ำนี่เองที่ทำให้หมึกเคลื่อนที่ไปมาได้อย่างว่องไวและรวดเร็ว หมึกสามารถล่าเหยื่อและหลบหลีกอันตรายต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้หมึกยังมีความ สามารถในการพลางตัว สามารถเปลี่ยนสีลำตัวจากสีแดงเข้มและน้ำตาล ไปเป็นสีชมพูและม่วงได้ และเมื่อถูกรบกวน หมึกก็จะปล่อยหมึกสีดำออกมาเพื่อพลางตัวสำหรับการหลบหนี                    หน้าที่สำคัญของหมึกในมหาสมุทร
                    หมึกเป็นตัวกลาง หรือตัวเชื่อมต่อของสายใยอาหารในมหาสมุทร เนื่องจากหมึกอยู่ในฐานะที่ทั้งเป็นนักล่าที่ดุร้ายกินสัตว์หลายชนิดเป็น อาหาร และขณะเดียวกันก็เป็นเหยื่ออันโอชะของปลาขนาดใหญ่และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใน ทะเล โดยทั่วไปแล้วหมึกจะอาศัยเคลื่อนที่ไปมาตามพื้นทะเลในช่วงเวลากลางวันเพื่อ หลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของสัตว์นักล่าหลายชนิด และจะขึ้นมาหากินบริเวณผิวน้ำในช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น สัตว์กินหมึกเป็นอาหารหลักและชอบหมึกเป็นพิเศษ ก็เช่น ปลาฉนาก (Swordfish), ปลากระโทง (marlin), ปลาทูน่า (tuna) และโลมาปากขวด (bottlenose dolphins) ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องช่วยกันดูแลให้จำนวนประชากรของหมึกอยู่ในสมดุล เพื่อที่จะทำให้ระบบนิเวศในทะเลคงอยู่กับเราไปนานๆ
                    และไม่ใช่เฉพาะปลาและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมในทะเลเท่านั้นที่กินหมึกเป็น อาหาร มนุษย์เองก็อาศัยกินหมึกเป็นอาหาร และใช้หมึกเป็นเหยื่อสำหรับตกปลาชนิดอื่นๆ อีกด้วย มนุษย์เราจับหมึกโดยใช้อวนลากและวางเบ็ดราวใต้แสงไฟในตอนกลางคืน และการจับหมึกมากเกินไปเป็นเหตุให้สมดุลของระบบนิเวศทางทะเลสูงไ
                    ทำไมประชากรของหมึกจึงมีการเปลี่ยนแปลงได้ง่าย                     หมึกเป็นสัตว์ที่ฝรั่งให้นิยามว่า “Annual species – meaing they are born and die in one year” คือเกิดมา เติบโต สืบพันธุ์และก็จะตายไป ทำให้จำนวนประชากรของหมึกในแต่ละปีจะขึ้นอยู่กับจำนวนของหมึกที่อยู่รอดและ เติบโตมาจากปีก่อนหน้านั้น จากข้อมูลในอดีตที่ผ่านมา พบว่า ถ้าปีใดที่มีการจับหมึกขึ้นมาขายมากินกันมากๆ ในปีถัดมาจำนวนหมึกก็จะลดจำนวนลง ดังนั้นจะเห็นได้ว่าจำนวนประชากรของหมึกในทะเล จะขึ้นอยู่กับการทำการประมงทางทะเลเป็นสำคัญนะค่ะ
                    การป้องกันการจับหมึกเกินพิกัด
                    น้อยคนหนักที่จะบอกว่าหมึกไม่อร่อย ทำให้ความต้องการหมึกจากทะเลมาเป็นอาหารยังคงมีมากอยู่ และยังคงเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของประชากรที่เพิ่มขึ้น การคมนาคมขนส่งที่สะดวกรวดเร็วมากขึ้น
                    กลายเป็นปัญหาที่สำคัญ สำหรับเรื่องของการจัดการเกี่ยวกับการจับหมึกเพื่อการค้า เรามักจะไม่ค่อยคำนึงถึงความสมดุลของการจับหมึก และจำนวนหมึกที่เหลืออยู่ และเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เราควรจะจับเท่าไหร่ และเหลือหมึกปล่อยไว้ในทะเลเท่าไหร่ ถึงจะอยู่ในสมดุลพอดี ทำให้สายใยอาหารอยู่ในสมดุล
                    นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับหมึกรู้ดีว่า หมึกมีอัตราการตายตามธรรมชาติสูง แต่ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามีจำนวนเท่าใด และยังไม่รู้ว่าหมึกถูกล่าโดยสัตว์ชนิดใดมากที่สุด บวกกับสถานการณ์การล่าหมึกมาเป็นอาหารและเพื่อการค้า ทำให้สถานภาพของหมึกที่อยู่ในระบบนิเวศอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ถ้าอย่างนั้น เราจะมีหมึกกินถึงเมื่อไหร่หนอ ดูแลรักษาไว้นะค่ะจะได้มีกินไปนานๆค่ะ

0 comments:

Post a Comment